"นี่..."
"ว่าไง"
"จะเล่นอีกนานไหม มือถือน่ะ"
น้ำทิพย์เงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์ของเธอ หน้าจอยังเห็นเปิดค้างอยู่ที่อินสตาแกรม เป็นรูปที่มีคนแท็กชื่อเธอมาให้มากมายจนตามดูไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้นมันก็เป็นรูปเดียวกัน รูปที่เธอหอมแก้มนิ่มๆของผู้หญิงคนหนึ่งที่ตอนนี้เจ้าตัวนั่งทำหน้ามุ่ยอยู่ข้างกันบนโซฟาตัวใหญ่
"เลิกเล่นแล้วๆ" น้ำทิพย์รีบบอกอย่างเอาใจ มือของเธอวางโทรศัพท์ลงข้างกายทันที "งอนบีเหรอ"
"ก็เห็นยิ้มอะไรกับมือถืออยู่ได้ ขนาดคริสนั่งอยู่ข้างๆนี่ยังไม่เห็นสนใจกันเลย" ศิรินว่าเสียงงอน
"ก็ยิ้มให้กับรูปของเราสองคนไง" น้ำทิพย์บอก อ้อมแขนเรียวโอบรอบคนข้างๆมาเคียงชิดใกล้ ยิ่งใกล้ก็ยิ่งห้ามใจไม่ไหว ร่างสูงจรดปลายจมูกลงที่แก้มของคนหน้าหมวยอีกครั้ง
"งอนแล้วน่ารักนะ รู้ตัวไหม"
ศิรินพยายามที่จะกลั้นยิ้ม แต่ก็ดูท่าทางจะไม่สำเร็จเท่าไหร่นัก
"จะให้งอนเหมือนคืนนั้นอีกเหรอ"
ซูชิ สลัดผัก กับคืนวันไฟนอลวอล์คอันร้อนแรง มีศิรินที่นัวเนียอยู่กับเฌอมาลย์บนเวทีเพื่อเอาคืนคนบางคนที่หนีเที่ยวไม่ยอมมางานกับเธอ ในคืนนั้นหลังจากออกจากงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ที่เซ็นทรัลเวิลด์ สองสาวก็ได้นัดพบกันเป็นการส่วนตัว ความเย้ายวนที่ค้างคาจากภาพบาดใจบนเวที อารมณ์คนหึงที่ทั้งโกรธตัวเองและโกรธอีกฝ่ายที่ยอมเปลืองเนื้อเปลืองตัวกับสาวสวย เมื่อได้พบหน้ากันในที่สุด สองกายก็โถมเข้าหากันด้วยแรงเสน่หา กายสาวร้อนดั่งไฟลุกโชนเมื่อเสื้อผ้าถูกเปลื้องออกทีละชิ้น
เนื้อแนบเนื้อ เสียงเพรียกรำพันร้องเป็นคำรักซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนรุ่งสาง และเมื่อตะวันสาดแสงเข้ามาทางหน้าต่าง จุมพิตแห่งการลาจากก็ถูกมอบให้แก่กัน ต่างคนต่างขึ้นรถของตัวเอง ขับกันไปคนละทิศทาง เธอมีงานของเธอ ฉันมีชีวิตของฉัน แม้จะอยู่ในวงการเดียวกัน และแม้จะมีเพื่อนกลุ่มเดียวกัน แต่สองสาวก็ไม่สามารถพบกันได้บ่อยเท่าที่ใจนึกอยาก ความสัมพันธ์จึงถูกสานต่อผ่านโลกออนไลน์ ได้เห็นเพียงรูปภาพกับข้อความ ได้ยินแต่เสียงที่คอยโทรหากันบ้างเมื่อว่างเว้นจากงานแทนความคิดถึง
จนกระทั่งได้มาพบกันในค่ำคืนนี้ ที่งานรวมตัวเพื่อนเจ้าสาวของสมาชิกในกลุ่ม มีสาวสวยมากหน้าหลายตานับสิบชีวิตมารวมตัวกันอยู่ในห้องเดียว แต่ละคนแต่งตัวเหมือนๆกันด้วยเสื้อยืดขาวที่คลุมทับด้วยเสื้อคลุมสีเข้มตัวสั้นอวดเรียวขา ถ้าหันหลังทีก็แทบจะแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร
แต่ถึงอย่างนั้น... สายตาฉันก็มีแต่เธอ
แล้วเราก็อยู่ใกล้ชิดกันตลอดคืน อย่างเพื่อนสนิท อย่างคนที่เป็นอะไรกันมากกว่านั้น เราผลัดกันลงไอจี มีอมยิ้ม มีหอมแก้ม เพื่อนๆของเราพูดคุยสังสรรค์กันอยู่ใกล้ๆ แต่เหมือนในโลกนี้มีแค่เราสองคน
"คิดอะไรอยู่" ศิรินเอ่ยถามเมื่อเห็นคนตรงหน้าดูเหม่อลอยหากแต่สายตากลับหวานหยด
ไม่รู้ว่าคิดถึงอะไรอยู่กันนะ...
"คิดถึงคริส" น้ำทิพย์กระซิบ "คิดถึงคืนนั้น"
"คริสก็คิดถึงบี"
"เรา..."
คำเอ่ยเชิญชวนมีเพียงแค่นั้น เพราะคนที่รู้ใจแค่เพียงมองตาก็เท่าทันความคิดของกันและกันโดยไม่ต้องพูดอะไรมาก น้ำทิพย์กุมมือของศิริน แล้วทั้งสองก็ลุกขึ้นจากโซฟาไปด้วยกัน
เบื้องหลังบานประตูที่ลงกลอนซ่อนเร้นจากสายตาของคนทั้งโลก คือโลกส่วนตัวเล็กๆของผู้หญิงสองคนที่ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางแสงสีและหมู่มวลประชาชน หากแต่ยามที่อยู่กันตามลำพัง คำรักที่ไม่สามารถเอื้อนเอ่ยต่อหน้าคนอื่นก็ถูกพร่ำบอกต่อกันไม่ขาด
มือเรียวจมหายไปใต้เสื้อคลุมสีเข้มเพื่อไปสัมผัสกับกายอุ่นจนแทบร้อนของกันและกัน แล้วสักพักเสื้อคลุมสองตัวก็ตกลงไปกองบนพื้นหินอ่อนอย่างง่ายดาย ตามด้วยเสื้อยืดขาวและกางเกงขาสั้น นิ้วมือปลดสายชั้นในอย่างช่ำชอง เปิดเผยให้เห็นเนินอกคู่งามที่น้ำทิพย์ไม่เคยอดใจได้สักที ร่างของศิรินล้มลงบนเตียงก่อนถูกทาบทับตามมาอย่างรวดเร็วด้วยร่างสูงเพรียวของน้ำทิพย์ รอยจูบบนเนินเนื้อคู่งามทำหัวใจสั่นไหว และเมื่อรอยจูบนั้นเคลื่อนตัวต่ำลงเรื่อยๆ ผ่านหน้าท้องแบนราบลงไปยังความอ่อนไหวที่ใจกลางกายสาว เสียงครางหวานที่ลอดผ่านริมฝีปากเป็นดั่งดนตรีวิเศษที่ทั้งปลุกเร้าและหลอมละลายอีกคนทั้งตัวทั้งหัวใจ
กายที่บิดเร่า ชื่อที่ถูกเรียกซ้ำๆพร้อมกับคำว่ารัก ความรักของเธอในค่ำคืนนี้เป็นดั่งพายุโหมบนผืนผ้าปูเตียงสีขาวอันยับย่นที่ร่วมเป็นสนามรักให้เราสอง และเบื้องหลังประตูบานนั้นคือร่างกายของหญิงสาวสองคนที่ตระกองกอดกันแน่นราวกับไม่อยากจะแยกจากกันไปที่ใด แต่ติดที่พันธะและภาระอื่นที่คอยดึงตัวเธอทั้งสองกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง เวลาที่มีให้กันจึงแสนสั้น แต่ก็หอมหวานตราตรึงในหัวใจนานแสนนาน รอคอยก็เพียงครั้งต่อไปที่จะได้พบกัน... ได้เป็นของกันและกันเช่นนี้เรื่อยๆไป
"ผมยุ่งหมดเลย" ศิรินพึมพำออกมาเมื่อเธอช่วยน้ำทิพย์แต่งตัว มือบางลูบไปเบาๆบนเส้นผมสีน้ำตาลของคนตัวสูงเหมือนจะสางให้มันเรียบร้อยเหมือนก่อนที่ทั้งสองจะออกมา "ยังไม่ค่อยชินกับหน้าม้าบีเลยแฮะ"
"ฝีมือใครล่ะ" น้ำทิพย์ว่า รอยยิ้มน้อยๆปรากฏที่มุมปากของเธอ แล้วเธอก็ใช้สองมือยีผมของศิรินให้ดูยุ่งเหยิงพอกัน ศิรินปัดมือของร่างสูงออกอย่างขัดใจ
"มาแกล้งคริสอีก"
"บีแกล้งเฉพาะคนที่บีรักเท่านั้นแหละ"
คำพูดนี้เรียกรอยยิ้มจากศิรินได้อย่างไม่ต้องสงสัย
"ปากหวานนะ"
"ก็กินอมยิ้มมา" คนตัวสูงตอบหน้าตายให้อีกฝ่ายหัวเราะ
"อะไรหวานกว่ากันล่ะ ระหว่างคริสกับอมยิ้ม" ศิรินถาม อ้อมแขนของเธอโอบรอบคอของน้ำทิพย์ไว้ ใบหน้าสองสาวโน้มเข้ามาชิดใกล้จนปลายจมูกสัมผัสกัน
"ก็ต้องคริสสิ" น้ำทิพย์กระซิบบอก เธอรั้งร่างของอีกฝ่ายมาแนบชิด แล้วจึงมอบจุมพิตหวานเนิ่นนานที่แทบหลอมรวมสองกายให้เป็นหนึ่งเดียว
จุมพิตสุดท้ายในค่ำคืนคือการบอกลากันชั่วคราว แล้วทั้งสองสาวก็เดินออกจากห้องไป เพียงเพื่อจะเฝ้ารอวันที่สองกายสองใจจะได้มามอบความรักและเติมเต็มความสุขให้แก่กันและกันเช่นนี้อีกครั้ง
--
Writer's notes:
งานด่วนติดสปีด 4G มาก อะไรคือแต่งเสร็จตอนตีสอง 555555 ต้องหลับต้องนอนมั้ยยังไง มาตามคำเรียกร้องกับ one shot แรกในชีวิตเลยค่า โมเม้นมันได้จริงๆเลยต้องมา หวังว่ารีดทุกคนจะชอบกันน้า ^^
ความคิดเห็น